JavaScript / Python / Java / Kotlin และ Swift ต่างกันยังไง?

สายอาชีพโปรแกรมเมอร์ในยุคนี้ถือเป็นอาชีพที่มีความต้องการสูง ด้วยเทคโนโลยีที่เปลี่ยนไป แต่คนที่ทำงานสายงานนี้ยังมีน้อย และในอนาคตก็จะมีความต้องการมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งทำให้หลายๆ คนมีความคิดว่าอยากจะเริ่มเรียนการเขียนโปรแกรมบ้างแล้ว

การจะเขียนโปรแกรมขึ้นมานั้น ต้องใช้ภาษาคอมพิวเตอร์ในการป้อนข้อมูลเพื่อสั่งให้คอมพิวเตอร์ทำงาน ภาษาที่นิยมใช้กันในปัจจุบันก็มีมากมาย ยกตัวอย่างที่เราคุ้นเคย และน่าจะเห็นผ่านตามาบ้าง ก็อย่างเช่น JavaScript, Python, หรือ Swift เป็นต้น วันนี้ คอร์เนอร์ มี จะพาทุกคนไปทำความรู้กับภาษาคอมพิวเตอร์ที่นิยมใช้กันทั่วไป ว่าแต่ละตัวใช้งานอย่างไร? และมีข้อดีข้อเสียยังไงบ้าง?

1. JavaScript

เหมาะสำหรับใช้เขียนเพื่อทำเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชั่น โดยเฉพาะเว็บที่ต้องการให้ผู้ใช้สามารถโต้ตอบกับหน้าเว็บได้ เช่น กดตรงนี้ แล้วมีอะไรเด้งขึ้นมา เป็นต้น นอกจากนี้ JavaScript ยังเป็นภาษาที่คนนิยมใช้มากที่สุดต่อเนื่องกันมาหลายปีด้วย

🟢 ข้อดี

• ทั่วโลกนิยมใช้กัน

• มีความยืดหยุ่นสูง เอาไปปรับใช้ได้หลายรูปแบบ

• มี resource และ community ช่วยสนับสนุนเยอะ

🔴 ข้อเสีย

• อาจจะรันแล้วผลลัพธ์ออกมาไม่เหมือนกันในแต่ละ Browser

• มีคอนเซปต์บางอย่างที่อาจจะเข้าใจยากสำหรับมือใหม่

2. Python

เรียกว่าเป็นอีกภาษาที่คนนิยมเรียนกันมาก เพราะภาษา Python มีความสามารถรอบด้าน ไม่ว่าจะใช้พัฒนาระบบหลังบ้านของแอปพลิเคชั่นและเว็บไซต์, ใช้เพื่อวิเคราะห์ข้อมูล ไปจนถึงการทำโมเดล machine learning เป็นต้น

🟢 ข้อดี

• อ่านง่าย เข้าใจง่าย เรียนรู้ง่าย เหมาะสำหรับมือใหม่

• ใช้กับงานที่มีความซับซ้อนได้

• มี library tools และ framework จำนวนมาก

• ใช้งานได้หลากหลายรูปแบบ

🔴 ข้อเสีย

• โปรแกรมทำงานค่อนข้างช้า

• ไม่เหมาะกับใช้พัฒนาแอปพลิเคชั่นมือถือ

• ทำ Multithread ได้ไม่ค่อยดี

3. Java

เป็นภาษาใช้สำหรับเขียนโปรแกรมเชิงวัตถุ ถึงแม้จะเป็นภาษาที่เก่าแก่ แต่ก็ยังได้รับความนิยมสูงมากในปัจจุบัน ด้วยความสามารถหลายอย่าง นำไปใช้กับการทำงานได้หลายรูปแบบ ใช้ได้กับระบบปฏิบัติการที่หลากหลาย และมีความเสถียรสูง

🟢 ข้อดี

• รองรับการเขียนเชิงวัตถุ

• เป็นภาษาที่ cross platform

• มี API ที่สามารถเชื่อมต่อ network, database หรือ utilities อื่นๆ

• ทำ Multithread ได้

🔴 ข้อเสีย

• ต้องใช้ RAM สูง

4. Kotlin

ภาษาที่ Google เลือกใช้ในการพัฒนา Android app โดยภาษา Kotlin ถูกออกแบบมาให้ทำงานร่วมกับ Java ได้ 100% (Java ใช้เพื่อพัฒนา Android ก่อนหน้า Kotlin) แต่ความสามารถของภาษานี้ไม่ได้มีแค่ใช้พัฒนา Android app เท่านั้น แต่ยังใช้ได้กับการทำเว็บไซต์, Backend ไปจนถึงแอปพลิเคชั่นมือถือ

🟢 ข้อดี

• เป็นภาษาหลักในการพัฒนา Android

• ใช้งานได้หลากหลาย cross platform

• community เริ่มเติบโตมากขึ้นเรื่อยๆ

• เป็นภาษาที่อ่านง่าย เข้าใจง่าย

• ใช้งานกับ Java ได้ 100%

🔴 ข้อเสีย

• เป็นภาษาที่กำลังโต resource จึงมีน้อยกว่าภาษาอื่นๆ

5. Swift

ถ้าบอกว่า Kotlin ใช้พัฒนาฝั่ง Android ภาษา Swift ก็คือภาษาหลักที่ใช้พัฒนาฝั่ง iOS ใครที่อยากทำแอปพลิเคชั่นให้สาวก Apple ก็ต้องเลือกใช้ Swift

🟢 ข้อดี

• Apple สนับสนุนอย่างเป็นทางการ

• มี Auto Memory Management

• มีความเร็วสูง

• เป็นภาษาที่สั้น กระชับ

🔴 ข้อเสีย

• มี resource และ community ที่จำกัด

• ไม่รองรับการทำงานร่วม iOS เวอร์ชั่นเก่า

5 ภาษานี้เป็นเพียงแค่ส่วนนึงของภาษาคอมพิวเตอร์ที่คนนิยมใช้กัน ตามหลักแล้วการเลือกใช้ภาษาจะขึ้นอยู่กับว่าเราจะใช้งานด้านไหน เพราะแต่ละภาษาก็เหมาะกับการใช้งานคนละรูปแบบ ใครสนใจอยากเริ่มต้นเขียนโปรแกรม ก็สามารถหาคอร์สออนไลน์เรียนกันได้ มีให้เลือกเรียนกันหลายช่องทางมาก